ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 14 มีนาคม 2567

มท.1 ลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำ ทุกหน่วยงานต้องบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ดูแลรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพให้ประชาชน ทำให้ "ภูเก็ตเป็น sandbox เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย" และมีกำหนดตรวจ บางลาไนท์มาร์เก็ตป่าตอง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความสุขให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในค่ำคืนวันนี้

วันนี้ (14 มี.ค. 67) เวลา 16.30 น. นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังจาก นายกองใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับฟังบรรยายสรุปและตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุมสำนักงานท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยมี นายกองเอก อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ผู้แทนภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า การลงพื้นที่ของนายอนุทินในวันนี้ เป็นการติดตาม สังเกตการณ์สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตในช่วงนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในการตรวจราชการ ไม่ได้มาจับผิดหรือว่ามาเพราะเห็นว่าที่นี่มีสถานการณ์มากกว่าที่อื่นเป็นพิเศษ ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นประตูด่านหน้าที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย เพราะจังหวัดภูเก็ต เป็น Destination ที่เป็นที่ชื่นชมของคนต่างประเทศมาก และตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกที่ทุ่มเทเสียสละยอมให้เป็นพื้นที่ Sandbox จนทำให้การเดินทางระหว่างประเทศเกิดขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ประเทศไทยสามารถเปิดประเทศให้มีการสัญจรไปมาเกิดขึ้น เป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่น สร้างความมั่นใจว่าท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่รุนแรงระดับโลก ประเทศไทยก็ยังคงควบคุมสถานการณ์ได้ และทำให้ข้อจำกัดต่าง ๆ ลดน้อยลง จนทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ และเกิด Sandbox 1 Sandbox 2 จนทำให้เมืองใหญ่ ๆ รวมถึงกรุงเทพฯ เกิดกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ในการเข้าออกประเทศ

"ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ การรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญ คนต่างชาติจะมาข่มเหงคุกคามคนไทยไม่ได้ เพราะไม่ว่าอยู่ที่บ้านเมืองไหนก็ต้องเคารพกฎหมายของบ้านเมืองนั้น ต้องให้เกียรติคนบ้านเขา เพราะนี่คือวัฒนธรรมประเพณี ถ้าใครเข้ามา เราต้องมีกฎกติกาในการอยู่ร่วมกัน ยิ่งถ้าเป็นคนต่างประเทศแล้วมาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมเช่นนี้ ไม่มีใครรับได้ และมันไม่ใช่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นครั้งเดียว คนต่างชาติไม่มีสิทธิดูถูกคนไทย ไม่มีสิทธิดูถูกเจ้าของบ้าน ผู้อาศัยต้องอยู่ตามกฎของเจ้าของบ้าน ไม่มีทางที่รัฐบาลจะยอมให้ใครกดขี่ข่มเหงดูถูกคนของเราเป็นอันขาด โดยหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบความผิดอื่นอีก ก็ฝากให้ดำเนินการตามทุกข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอยืนยันว่าในจังหวัดภูเก็ตไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นหัวหน้าข้าราชการผู้รักษากฎหมาย โดยตนขอเน้นย้ำว่า "หากข้าราชการทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วยเจตนาอันสุจริต จะไม่มีใครทำให้เกิดผลกระทบกับการรับราชการ" ไม่มีใครที่จะมีอิทธิพลเหนือกว่ากฎหมาย การเป็นเจ้าพ่อต้องเป็นเจ้าพ่อด้วยความดีไม่ใช่การออกมาข่มเหง ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ระรานชาวบ้าน ประพฤติตนเป็นอันธพาล อันนี้เขาเรียกว่า "กุ๊ย" ที่เราจะต้องช่วยกันปราบกุ๊ย และช่วยเพิ่มความสงบเรียบร้อย ทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินมากขึ้น คนไทย คนภูเก็ตจะได้ประโยชน์ ช่วยกันบันดาลความสุขให้กับพื้นที่"

นางสาวไตรศุลี กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องการจัดระเบียบสังคม นายอนุทินฯ ได้เน้นย้ำว่า การจัดระเบียบสังคมเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่นี้ นอกจากนักเลงอันธพาลแล้ว ยังมีสิ่งกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมอันธพาลนักเลงได้ก็คือ อาวุธต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงที่จะทำให้ในสิ้นปีนี้ ผู้ที่เคยได้รับอนุญาตให้พกปืนจะไม่สามารถพกปืนได้ ในส่วนใครใช้เพื่อการเล่นกีฬาก็ต้องฝากอาวุธไว้ที่สโมสร และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชกำหนดให้ผู้มีอาวุธปืนเถื่อน อาวุธปืนบีบีกัน แบลงค์กัน มาส่งมอบแก่ทางราชการเพื่อนำไปทำลาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่จะทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของคนในสังคม โดยผู้ที่นำมาส่งมอบจะไม่มีความผิดตามกฎหมาย ตำรวจและทหารต้องเพิ่มศักยภาพในการคุ้มครองปกป้องรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่ เมื่อรัฐบาลออกมาตรการห้ามพกพาอาวุธปืนแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการให้การปกป้องรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน "จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้บูรณาการและมอบนโยบายกำชับให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยในทุกที่ ทุกเวลา ทำให้ภูเก็ตเป็น Sandbox เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย Friendly City เหตุทะเลาะวิวาทก็แค่มีปากเสียง แต่ไม่มีการใช้อาวุธรุนแรงทำร้ายกัน

สำหรับในด้านการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน ขอให้กรมที่ดินได้ตรวจสอบสิทธิต่าง ๆ ตรงไหนเป็นสิทธิของประชาชน เราไม่ละเมิด แต่ถ้าพื้นที่ใดถูกรุกล้ำก็ต้องยึดคืนเพื่อให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ไหนมีนักเลงไปเก็บค่าผ่านเข้าหาด กีดกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ที่สาธารณะ ก็ต้องทำลายระบบนั้นเสีย และให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ “ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องบันดาลให้สิ่งไม่ดีเหล่านั้นได้รับการแก้ไขได้ เพื่อให้ความเป็นสาธารณประโยชน์ของประชาชนไม่ถูกเบียดเบียนบดบังไปเป็นประโยชน์ส่วนตน”

นางสาวไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว นายอนุทิน ได้กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องโอกาสและรายได้ของพี่น้องประชาชน ซึ่งคนที่ดูแลเรื่องความมั่นคงจะต้องน้อมรับข้อสั่งการของรัฐบาล ด้วยการทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ซึ่งภูเก็ตจังหวัดเดียวหล่อเลี้ยงการท่องเที่ยวเกือบ 1 ใน 3 ของประเทศ ดังนั้น ถ้ามีอุปสรรคใด ๆ กับความสงบสุขของพื้นที่ เงินรายได้ก็จะไม่เข้าประเทศ และจะส่งผลต่อโอกาสของพี่น้องประชาชน ซึ่งเราต้องทำให้ทุกอย่างถ่วงดุลและมีมาตรการในการดูแล ถ้าเราสามารถควบคุมกำกับดูแลสถานการณ์ในเรื่องการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดได้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจและรายได้ของประชาชนไม่ถูกกระทบจนเกินไป และเราอย่าลืมว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ประชาชนขาดโอกาส เสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้คนสามารถทำมาหากิน มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้สั่งการให้กรมการปกครองบัญชาการให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) สนับสนุนนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนได้ตระหนักเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายจนเป็นวิถีชีวิตปกติ เพราะ "สังคมดี ชีวิตดี มีความปลอดภัย ก็จะยังผลให้สิ่งอื่น ๆ เกิดความปีติ บ้านเมืองมีความสงบสุข สวยงาม สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน""

นางสาวไตรศุลี กล่าวในช่วงท้ายว่า ในช่วงค่ำวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดลงพื้นที่ บางลาไนท์มาร์เก็ตป่าตอง เพื่อตรวจติดตามการรักษาความสงบเรียบร้อยและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความสุขให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว

กองสารนิเทศ สป.มท.

ครั้งที่ 387/2567

วันที่ 14 มี.ค. 2567