ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2567

มท.1 ลงพื้นที่อุทุมพรพิสัย เน้นย้ำ คนมหาดไทยทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนทุกลมหายใจ กำชับผู้ว่านำทีมข้าราชการช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ต่อยอดจากต้นทุนที่มี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

วันนี้ (8 มี.ค. 67) เวลา 14.00 น. ที่โรงเรียนกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 4,000 คน

โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ และเยี่ยมชมนิทรรศการผลการขับเคลื่อนงานตามภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP นิทรรศการผ้าไทยใส่ให้สนุก พร้อมทั้งชื่นชมวงโยธวาทิตโรงเรียนกำแพง และพบปะพี่น้องประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า ภาพของศรีสะเกษในอนาคตอันใกล้ คือ การเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอีกเมืองหนึ่งในประเทศ วันนี้เราต้องคิดถึงการสร้างเอกลักษณ์ หรือการทำเอกลักษณ์ที่มีอยู่แล้วให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ให้กลายเป็นภาพจำที่ชัดเจน โดยใช้ประโยชน์จากต้นทุน เพราะที่เรามี "ต้นทุน" นั้นก็หมายถึง ทั้งต้นทุนทางวัฒนธรรม ต้นทุนในแง่ความรู้ความสามารถ และเสน่ห์ของผู้คน ต้นทุนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ผลิตผลจากเกษตรกรรม และสินค้าจากความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ทั้งที่มีอยู่แล้ว และที่เราจะต่อยอดต่อไป โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษจะต้องนำทีมข้าราชการและบุคลากรในสังกัดทุกท่าน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ทำอย่างไรจะต่อยอดให้ต้นทุนนั้นนำไปสู่ดอกผลที่งอกงาม เพิ่มคุณค่า เพิ่มรายได้ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชาวศรีสะเกษ

นายอนุทินฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้ หายใจเข้า หายใจออก ก็เป็น "การทำงาน" ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสังคม เราทำให้สังคมมีความน่าอยู่ มีความสงบ ไม่มีอาชญากรรม ทุกวันนี้เราจับยาเสพติดครั้งละมากกว่า 10 ล้านเม็ด ซึ่งเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญ พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันบอกลูกหลานว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ช่วยกันปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้รู้โทษของยาเสพติด ห่างไกลยาเสพติด โดยมุ่งส่งเสริมการทำกิจกรรม ฝึกให้เขากล้าแสดงออก เฉกเช่นนักเรียนวงโยธวาทิต วงมโหรี ของโรงเรียนกำแพงแห่งนี้ ซึ่งกิจกรรมถือเป็นการฝึกวินัย มีผู้นำ มีผู้ตาม ทำงานเป็นทีม เพื่อเป็นพื้นฐานหนุนเสริมการเป็นพลเมืองผู้พัฒนาบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรือง

"ศรีสะเกษมีโอกาสเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งสินค้าพื้นเมือง จากตัวเลขที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั้งมิติการท่องเที่ยว มิติเศรษฐกิจ การค้ามีเพิ่มขึ้น ศรีสะเกษจะไม่ใช่เมืองที่คนผ่านมาแล้วผ่านไป ต้องเป็นเมืองที่คนชื่นชมความงดงามของศรีสะเกษ ต้องแวะท่องเที่ยว ขณะนี้ทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการเพื่อให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อให้เกิดโอกาสในการสร้างรายได้ และช่วงเย็นวันนี้ ตนจะไปเป็นประธานเปิดงานเทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทศรีสะเกษ ซึ่งเป็นความงดงามของประเพณีชาวศรีสะเกษ" นายอนุทินฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายอนุทินฯ ยังได้กล่าวถึงการสนับสนุนบทบาทของกลไกการทำงานกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ซึ่งตนได้หารือกับอธิบดีกรมการปกครอง ในการยกระดับการดูแลทั้งค่าตอบแทน สวัสดิการ เครื่องแบบ การประกาศเชิดชูเกียรติของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ซึ่งถือเป็นกำลังที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนในพื้นที่

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 351/2567
วันที่ 8 มี.ค. 2567