ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566

มท.1 เป็นประธานเปิดโรงไฟฟ้าสยามพาวเวอร์ และเปิดศูนย์การเรียนรู้การผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรีมุ่งมั่นส่งเสริมการบริหารจัดการขยะ ผลักดันพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและชาวต่างชาติ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

วันนี้ (16 พ.ย. 66) เวลา 15.00 น. ที่โรงไฟฟ้าสยามทาวเวอร์ ตำบลบางขวาง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโรงไฟฟ้าสยามพาวเวอร์ และศูนย์การเรียนรู้ผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย โดย ดร.ธนู กุลชล ประธานกรรมการบริษัท สยามพาวเวอร์ จำกัด นางกนกทิพย์ จันทรังสี นายทวี จงควินิต กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะผู้บริหารบริษัท สยามพาวเวอร์ จำกัด ร่วมให้การต้อนรับ โดยมีนายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี อากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกองทัพอากาศ นางสาววรรณี วุฒิฤทธากุล นายอำเภอไทรน้อย หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนนทบุรี แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมในงาน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญจากคณะกรรมการ บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด มาร่วมเปิดโรงไฟฟ้าสยาม พาวเวอร์ และ ศูนย์การเรียนรู้การผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย ในวันนี้ สิ่งที่ท่านได้สร้างขึ้น ถือว่าเป็นความมานะพยายามและเอาใจใส่ สอดคล้องทั้งกับความต้องการของประเทศและของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงานหรือการจัดการขยะ ล้วนเป็นปัญหาที่เป็นสากลที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการสนับสนุนการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนพลังงานทางเลือก ตอบสนองความต้องการสากล "New World Order" เพื่อแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับที่รัฐบาลไทยได้ประกาศปัญหาขยะ "ปัญหาวิกฤตขยะล้นเมือง" เป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยกำหนดให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยส่งเสริมให้มีระบบการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนในรูปแบบใหม่ คือ "การกำจัดแบบรวมศูนย์และแปรรูปเป็นพลังงาน"

"โรงไฟฟ้าสยามพาวเวอร์ เป็น 1 ในจำนวน 12 โครงการกำจัดขยะชุมชนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ตามบัญชีโครงการกำจัดขยะชุมชนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นโครงการที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ดำเนินการภายใต้ "สัญญาก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการ การนำขยะมูลฝอยจากหลุมฝังกลบขยะมูลฝอยเดิมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี มาใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า" นอกจากนี้ยังจัดสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับชุมชน ที่อยู่โดยรอบพื้นที่ตั้งโรงงาน เป็นสถานที่สำหรับศึกษาดูงานให้กับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อันเป็นการส่งเสริมนโยบายของภาครัฐในการจัดการขยะแบบบูรณาการและยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล ช่วยทำให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ขับเคลื่อน Green Circular ของประเทศไทย จึงนับเป็นโครงการที่ทันสมัย สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาในพื้นที่อื่น ๆ ขอให้การดำเนินงานนับจากนี้เป็นไปอย่างราบรื่นบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการทุกประการ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของจังหวัดนนทบุรี และของประเทศไทย ช่วยกันสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติ" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายทวี จงควินิต กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามพาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ในนามของบริษัท สยาม พาวเวอร์ รู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติมาร่วมในพิธีเปิดโรงไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของสยามพาวเวอร์ และศูนย์การเรียนรู้การผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอยแห่งนี้ โรงไฟฟ้าสยามพาวเวอร์ มีกำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ได้รับสัมปทานในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบฝังกลบจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เป็นเวลา 23 ปี โครงการประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ 1.โรงคัดแยกเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF 2.โรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF บริษัท สยามพาวเวอร์ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in Tariff กับการไฟฟ้านครหลวง ในปริมาณการรับซื้อไฟ 8 เมกะวัตต์ และได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการแล้ว เสร็จสมบูรณ์ สามารถดำเนินการจ่ายไฟเข้าสู่ระบบในเชิงพาณิชย์ (COD)ในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 โดยสัญญาซื้อขายมีระยะเวลา 20 ปี ภายใต้สัญญาก่อสร้างและบริหารจัดการระบบการนำขยะมูลฝอยจากหลุมฝังกลบขยะมูลฝอยจาก อบจ.นนทบุรี มาใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีปริมาณ 3 ล้านตัน

นายทวี จงควินิต กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามพาวเวอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า "สยามพาวเวอร์ได้ออกแบบและดำเนินงานโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตามแนวทาง ESG (Environment, Social, Governance) เพราะเราคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ เราเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเลือกระบบ Air Cool Condensing ซึ่งสามารถลดการใช้น้ำในระบบคูลลิ่งจากระบบทั่วไปได้ถึง 80% เราออกแบบระบบ Water Recycling และระบบบำบัดน้ำ เพื่อนำน้ำกลับมาใช้ได้อย่างหมุนเวียน ไม่มีการทิ้งน้ำออกจากโรงงาน ระบบบำบัดอากาศจากการเผาไหม้ เราเลือกใช้ระบบที่ทันสมัย และติดตั้งระบบ CEMS รายงาน ผลการตรวจสอบอากาศจากปล่องอย่างต่อเนื่อง Real Time ไปยังจอแสดงผลที่หน้าโรงไฟฟ้า และตรงไปยังกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เราคำนึงถึงภาคสังคม โดยนำเอาศักยภาพของเรา มาเกื้อหนุนชุมชน ทั้งในด้านสังคม วัฒนธรรม ประเพณีพื้นบ้าน ทุนการศึกษา การสนับสนุนโรงพยาบาล และสาธารณสุขของชุมชน เรายึดถือหลักการบริหารงานอย่างมีคุณธรรมและโปร่งใส จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย พร้อมเปิดให้ส่วนราชการและประชาชนสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และนำเสนอสาระดี ๆ ที่เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดการขยะเพื่อนำไป เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีการนำสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยประกอบการเรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น และยังสามารถมองเห็นการปฏิบัติงานจริงของเครื่องจักและเจ้าหน้าที่ภายในอาคารได้แบบ 180 องศา ทั้งนี้ สยามพาวเวอร์ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสังคมรอบข้างเพื่อให้อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างมีความสุข ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในการประกอบธุรกิจ โดยคำนึงถึงสัมพันธภาพที่ดีและยั่งยืนร่วมกับชุมชนตลอดไป"

#กระทรวงมหาดไทย
#บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#MOI

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1,041/2566
วันที่ 16 พ.ย. 2566