ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566

มท.1 ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบาย "การไฟฟ้านครหลวง" เน้นย้ำ เป็นองค์กรสำคัญที่ให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน เป็นที่พึ่งพาให้กับพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการบริการเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ Smart City

วันนี้ (7 พ.ย. 66) เวลา 14.00 น. ที่ห้องสัมมนาชั้น 12A อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง (MEA) สำนักงานใหญ่ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานการไฟฟ้านครหลวง โดยมี นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมตรวจเยี่ยม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาพบกับผู้บริหาร พนักงาน และเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบไฟฟ้า เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยวิสัยทัศน์ และการขับเคลื่อนงานที่มีความทันสมัย ตอบสนองในการบริการรวมถึงการเพิ่มแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนทั่วโลก เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย ตลอดจนถึงกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองไปสู่เมืองมหานครแห่งอนาคตที่ทันสมัย ใส่ใจสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อม

"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การไฟฟ้านครหลวง (MEA) มีการพัฒนาคุณภาพระบบไฟฟ้าและระบบให้บริการประชาชนให้ทันสมัยมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวทางการทำงานที่ตนเคยได้มอบนโยบายให้ชาวมหาดไทย ให้มีความ "ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที" ซึ่งล่าสุด จากการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้มอบแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ด้วยการขยายเวลาถอดมิเตอร์ไฟฟ้าที่ค้างชำระ จาก 1 เดือน เป็น 3 เดือน ซึ่งในวันนี้ท่านผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงก็ได้สนองนโยบายตามแนวทางดังกล่าวมาใช้กับการไฟฟ้านครหลวงด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เป็นที่พึ่งพาของพี่น้องประชาชน ตามพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบความยากลำบากหรือผู้มีรายได้น้อยได้มีเวลาในการชำระค่าไฟ ซึ่งยังสอดคล้องกับแนวทางที่เคยกล่าวไปว่า "สั่งวันนี้ต้องเสร็จเมื่อวาน" เพื่อทำประโยชน์ให้กับประชาชนและบ้านเมือง และแน่นอนว่า สิ่งที่เราดำเนินการไม่เพียงแต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เรายังต้องคิดถึงการแก้ปัญหาเรื่องพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมพลังงานทางเลือกและคิดหาทางปรับปรุงพัฒนานวัตกรรมและการบริการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป” นายอนุทิน ฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวอีกว่า ขอให้การไฟฟ้านครหลวงได้นำนโยบายตามแนวทางของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในด้านการลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ ทั้งการส่งเสริมพลังงานทางเลือก ด้วยการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Cell/Solar Rooftop ในสถานที่ราชการ สนับสนุนการจัดทำ "แผนปฏิบัติด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน" ของหน่วยงานเพื่อเป็นแผนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงพัฒนาให้รองรับกับการนำยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงสนับสนุนให้มีการติดตั้ง Solar Cell เพื่อลดค่าไฟให้กับประชาชนไปจนถึงการส่งเสริมครัวเรือนและชุมชน และสุดท้ายคือการมุ่งสู่ระบบรัฐบาลดิจิทัลด้วยการให้บริการประชาชนแบบ One Stop Service ยกระดับการบริการ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) เพื่อตอบสนองต่อพี่น้องประชาชน

"ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า “เราทุกคนจะมาช่วยกันทำให้องค์กรแห่งนี้มีประสิทธิภาพมากที่สุด” โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือพี่น้องประชาชน ซึ่งศักยภาพของการไฟฟ้านครหลวงมีความพร้อมที่จะตอบสนองต่อประชาชนคนในเมืองและคนที่มีวิถีชีวิตปกติประจำวันอยู่แล้ว ทั้งยังมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ผู้พร้อมดูแลบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและไม่เอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนในฐานะลูกค้าผู้รับบริการ มุ่งมั่นทำให้กรุงเทพมหานครเป็น Smart City เป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาคเอเชีย ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นที่ตั้งสำนักงาน Head Office ของนักลงทุนจากทั่วโลก “ขอให้พวกเรามั่นใจซึ่งกันและกัน มุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ทำคุณประโยชน์ให้เกิดแก่บ้านเมือง และช่วยสร้างความเจริญความมั่นคงให้กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน" นายอนุทิน ฯ กล่าวในช่วงท้าย

#กระทรวงมหาดไทย
#บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#MOI

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1,006/2566
วันที่ 7 พ.ย. 2566