ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 8 กันยายน 2566

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมพบปะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด

วันนี้ (8 ก.ย. 66) เวลา 09.09 น. ที่ห้อง Ballroom B โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมพบปะทักทายผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด โดยมี นายสมคิด จันทมฤก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายพรพจน์ เพ็ญพาส นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผู้อำนวยการสำนัก/กองในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดี เป็นจังหวะที่ดีที่ได้มาพบและแนะนำตัวกับผู้ว่าราชการทุกจังหวัดผู้เปรียบเสมือนเป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทยที่เสียสละเวลามาพบปะทักทาย “จึงนับเป็นจังหวะที่ดีที่เราได้มาพบกัน” ซึ่งก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยที่ให้การต้อนรับตนและคณะอย่างอบอุ่น ด้วยไมตรีจิตรและทำงานอย่างมุ่งมั่นร่วมกันกับรัฐบาลเพื่อสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่ง “ทุกคนรู้สึกแบบเดียวกัน” ว่ากระทรวงมหาดไทยมีความเกี่ยวข้องกับทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นในประเทศไทย กระทรวงมหาดไทยก็จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชน เริ่มตั้งแต่ประชาชนเกิดไปจนสิ้นอายุขัย จึงเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญ เพราะภารกิจของเรา มีความเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องกับทุกเรื่อง เป็นภารกิจที่มีความครอบจักรวาลแปรเปลี่ยนไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศไทยของเรา

“ภารกิจที่สำคัญไปยิ่งกว่านั้น คือการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติและพระมหากษัตริย์ เพราะทุกพระราชกรณีกิจของพระมหากษัตริย์จะสร้างสิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับประเทศไทย ดังนั้น ทุกเรื่องที่เป็นสิ่งที่ดีจึงเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยทั้งสิ้น จึงขอให้ชาวมหาดไทยได้ร่วมกันมุ่งมั่นทุ่มเท ถวายงานทำภารกิจที่เป็นสิ่งที่ดี เพื่อยังเกิดผลที่ดีให้กับประชาชนและประเทศของเรา”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า หัวใจสำคัญของเราคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข การรับใช้ประชาชนและบ้านเมือง เราทุกคนจึงต้องทำสิ่งที่รับผิดชอบ ทำหน้าที่ปลดปล่อย ปัดเป่าความทุกข์ของประชาชน และทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่งมีและมีความสุข เพราะความทุกข์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ สภาวะเศรษฐกิจ การเอารัดเอาเปรียบ ดังกรณีเรื่องที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องร่วมกันคิด Brain Storm ไม่ให้กลายเป็นความเดือดร้อน เป็นปัญหาความทุกข์ร้อนใจของพี่น้องประชาชน ภายใต้ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้เป็น “พ่อเมือง” จึงไม่ควรให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ไม่ควรให้คนที่เอารัดเอาเปรียบมาเป็นผู้นำของประชาชน และต้องใช้ความยุติธรรมทำให้คนเหล่านี้ไม่ต้องมารบกวนวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน

สิ่งที่เป็นพื้นฐานและรากฐานของเราที่อยากให้เกิดขึ้นคือการที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้น ในฐานะที่เป็นคนมหาดไทย เราต้องตอบสนองความคาดหวังและความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน เพราะเป้าหมายสูงสุดของพวกเราคือ ความสุข ความอยู่ดี กินดี รายได้ที่เพิ่มขึ้นของประชาชน ที่เกิดมาจากการทำงานของพวกเราชาวมหาดไทย จึงขอให้ท่านได้มั่นใจว่า เราจะทำภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลร่วมกันอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันสิ่งที่เปรียบเสมือนเป็นวิตามินใหม่เข้าสู่ DNA ของท่าน คือ “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” เพื่อให้เราไปยืนอยู่ในฐานะประเทศที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธา มีรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง เติบโต นำไปสู่คุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดี รวมไปถึงสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นภารกิจของกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคน” นายอนุทินฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า คำว่า “ทันโลก” ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นทฤษฎีอันเป็นอมตะ ที่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมีความตระหนี่ถี่เหนียว แต่สิ่งสำคัญคือ “การมีเพียงพอ” ทำให้เราสามารถยังชีพและพึ่งพาตนเองได้ ดังนั้น หากเราทำให้ทุกคนยึดหลักนี้ได้บ้านเมืองก็จะดี “ทันสมัย” เพราะสังคมและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทุกอย่างก้าวไปสู่ระบบดิจิทัล เราจึงต้องมีความทันสมัยต่อโลก โดยเงินดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล เป็นเงินที่จะช่วยกระตุ้นหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งกลไกของมหาดไทย ต้องสนับสนุนให้ชาวบ้านผลิตสินค้าที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน และทำให้เกิดการจัดการใช้สอย โดยหลักการสำคัญคือ การเปลี่ยนมือ เงินมาของไป หมุนเวียนจะกลับเอาซ้ายไปกับเขาขวา เงินก็จะอยู่ในประเทศไทยไม่ไหลออกนอกประเทศ เงินที่หมุนเวียนประชาชนก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เศรษฐกิจของประเทศก็จะดี เราจะต้องทำให้สินค้าที่มีคุณภาพนำไปสู่คุณูปการต่อประชาชนและประเทศชาติ รวมถึงการป้องกันการทุจริตจากการใช้ระบบเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ และ “ทันท่วงที” เพราะกระทรวงมหาดไทยเรามีหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เราจึงต้องไม่ทำให้งานค้างคา เพราะวันพรุ่งนี้ก็จะมีงานใหม่เข้ามาเสมอ ดังนั้นหากมีเรื่องใดให้แจ้งรายงานโดยทันที และเราจะไม่มีพิธีรีตอง เราจะตัดความไม่จำเป็นออก ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่มีอะไรสุขใจเท่ากับเห็นรอยยิ้มของประชาชน

เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันคือ “ประชาชน” ขอให้ทุกท่านทำงานด้วยความสุจริต มุ่งมั่นตั้งใจ ทำงานด้วยความสบายใจ ร่วมมือทำงานร่วมกันอย่างจริงใจ และที่สำคัญต้องไม่รังแกประชาชน ไม่ให้ใครมารังแก และต้องกำจัดคนที่รังแกประชาชน ทำให้เกิดความเป็นธรรม สิ่งอื่น ๆ ก็จะตามมา เราทุกคนเป็นพี่น้องและจะทำงานในกระทรวงมหาดไทยด้วยความสนุกสนาน เพราะงานสนุกเราก็จะเป็นสุขที่ได้รับใช้บ้านเมืองร่วมกัน และหากมีความสุขที่ได้จากการทำงานร่วมทุกข์ ร่วมสุข งานนั้นก็จะมีประสิทธิภาพ” นายอนุทินฯ กล่าวในช่วงท้าย