ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 24 เมษายน 2566

มท.1 มอบสารเนื่องในโอกาสครบ 70 ปี “วันเทศบาล” เน้นย้ำ มุ่งมั่นขับเคลื่อนงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ยกระดับบริการสาธารณะ เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชน

วันนี้ (24 เม.ย. 66) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้วันที่ 24 เมษายนของทุกปีเป็น “วันเทศบาล” อันมีที่มาจากเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2496 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้พระราชบัญญัติเทศบาล พุทธศักราช 2496 ซึ่งนับถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 70 ปีของการกำหนดให้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบ “เทศบาล” ขึ้นในประเทศไทย

“เทศบาล” ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด ตลอดระยะเวลา 70 ปี ได้มีพัฒนาการที่ดีมาโดยลำดับ ปัจจุบันมีเทศบาลทั้งสิ้นจำนวน 2,472 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลนคร 30 แห่ง เทศบาลเมือง 195 แห่ง และเทศบาลตำบล 2,247 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมานั้น เทศบาลทุกแห่งได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น ในทุกมิติตลอดช่วงชีวิต เป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ความเดือดร้อนเร่งด่วน รวมทั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 จึงขอให้ผู้บริหารของเทศบาลทุกแห่งอาศัยหลักธรรมาภิบาลในการขับเคลื่อนภารกิจให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาในทุกระดับ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 นโยบายของรัฐบาล และ 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGS) ของสหประชาชาติ และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น มุ่งสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่ เน้นการบูรณาการทำงานร่วมกับราชการบริหารส่วนอื่นอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชน” พล.อ.อนุพงษ์ฯ กล่าว

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้นายกเทศมนตรี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล และบุคลากรทุกท่าน ได้มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยกันส่งเสริม พัฒนา ยกระดับการบริการสาธารณะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อความสุขที่ยั่งยืนของพี่น้องประชาชน นำพาท้องถิ่นไทยให้เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนและเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป