ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566

มท.1 ลงพื้นที่เมืองอุบลฯ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วัดบูรพา ปะอาวเหนือ และเป็นประธานประชุมติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับส่วนราชการ ย้ำ นายอำเภอเป็นกลไกสำคัญในการทำให้สังคมดี ถ้าอำเภอดี จังหวัดและสังคมก็จะดี

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 เวลา 10.00 น. ที่พิพิธภัณฑ์วัดบูรพา ปะอาวเหนือ อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมเครื่องทองเหลืองบ้านปะอาว และติดตามการดำเนินงานกลุ่มทอผ้าไหมบ้านทุ่งนาเพียง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลปะอาว โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางชัชดาพร บุญพีระณัช รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เข้ากราบนมัสการพระครูศรีพิพัฒนคุณ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดเรียบปะอาวใต้ และพระครูสุตบูรพาสถิต เจ้าคณะตำบลปะอาว เจ้าอาวาสวัดบูรพาปะอาวเหนือ และพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ พร้อมรับชมการแสดงของดีเมืองปะอาวโดยนักเรียนในพื้นที่ และก่อนเดินทางไปศาลากลางจังหวัด ได้เข้าตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลปะอาว ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียน 49 คน ครูและผู้ดูแลเด็ก รวม 4ท่าน ซึ่งภายในศูนย์ได้พัฒนาพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้แปลงผักสวนครัว การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และสนามเด็กเล่นที่ประยุกต์ตามแนวทางสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ขอชื่นชมพี่น้องประชาชนชาวตำบลปะอาวผู้มีจิตใจมุ่งมั่นในการ รักษาศิลปวัฒนธรรมของบรรพบุรุษให้คงอยู่สืบทอดสืบสานอย่างยาวนาน และร่วมกันสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์ ให้เป็นที่เรียนรู้ ผูกพัน ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ไปยังเด็ก เยาวชน และลูกหลาน ในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ต้องคำนึงถึง “วิถีชีวิตของผู้คน” เป็นสำคัญ เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิ่งที่ดีงามให้คงอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน

นายสวัสดิ์ ดวงแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนปะอาว กล่าวว่า ตำบลปะอาว มีพื้นที่หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 มีประชากร 5,712 คน รวม 8 หมู่บ้าน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม โดยจัดให้มีการทำบุญตักบาตรถนนสายวัฒนธรรมทุกวันขึ้น 5 ค่ำและแรม 5 ค่ำ และนอกจากประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมแล้ว ยังประกอบอาชีพเสริมด้านการทอผ้า โดยเฉพาะกลุ่มทอผ้าไหมบ้านปะอาวได้รับรางวัล OTOP 5 ดาวเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี และกลุ่มอาชีพหัตถกรรมทองเหลืองโบราณซึ่งเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นอันล้ำค่าของชาวบ้านปะอาวที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และยังมีกลุ่มอาชีพอื่นซึ่งได้ดำเนินการพัฒนาต่อไป

จากนั้น เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมพรหมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานในประเด็นที่สำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่ 1) ปัญหาภัยแล้ง ไฟป่า หมอกควัน ต้องสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ด้วยการกำหนดมาตรการและรณรงค์ขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่ง ด้วยกลไกท้องที่และท้องถิ่น ดำเนินการให้สามารถลดจุด hotspot การลดแหล่งกำเนิดจากการใช้ยานพาหนะ ฝุ่น ควันดำ ลดแหล่งกำเนิดจากการก่อสร้าง การอุตสาหกรรม และรณรงค์สร้างการรับรู้ทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง 2) ปัญหายาเสพติด ที่เป็นปัญหารุนแรง ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้กลไก ผอ.รมน.จังหวัด บูรณาการกองกำลังทหารตำรวจและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลด Demand Side และปราบปราม Supply Side ของยาเสพติด ทำการตรวจคัดกรองบุคลากรภาครัฐไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเตรียมการด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม โดยใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้องทำการคัดกรอง เพื่อดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด และ 3) การบริหารจัดการขยะ ขอให้ดำเนินการส่งเสริมการคัดแยกขยะซึ่งตอบโจทย์ 3Rs ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อส่งเสริมให้การจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไม่ให้มีก๊าซมีเทนลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ขยะเปียกจะได้ไม่ถูกทิ้งลงในแหล่งน้ำไปสร้างปัญหามลพิษในน้ำ และขอฝากให้ช่วยกันรณรงค์ให้คนทิ้งขยะในที่ทิ้ง เพื่อความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง

“ขอเป็นกำลังใจและขอชื่นชมการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายอำเภอคือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย เพราะถ้าท่านนายอำเภอดูแลพื้นที่เป็นอย่างดี จังหวัดก็จะดี นายอำเภอจึงเป็นผู้ที่จะทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ จึงขอให้ท่านนายอำเภอ ซึ่งเป็นขุนพลคนสำคัญ ทำให้ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอดี จังหวัดและสังคมก็จะดี ความผาสุกก็จะเกิดขึ้น ประชาชนก็จะมีแต่ความสุขอย่างยั่งยืน” มท.1 กล่าวย้ำในช่วงท้าย