ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565

มท.1 ตอบกระทู้ ส.ว. กรณีการควบคุมอาวุธปืนก่ออาชญากรรม ย้ำ การขออนุญาตต้องรัดกุม เข้มงวด ตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 65 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมวุฒิสภา อาคารรัฐสภา เกียกกาย กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถาม เรื่องการควบคุมอาวุธปืน ตั้งกระทู้โดย นายอำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า มาตรการควบคุมอาวุธปืนนั้น เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง ซึ่งต้องทำเรื่องขอซื้อกับเจ้าหน้าที่นายทะเบียน ซึ่งจะถูกตรวจสอบคุณสมบัติผู้ครอบครองว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ เช่น ไม่ต้องโทษจำคุกตามกฎหมายอาญา เป็นบุคคลบรรลุนิติภาวะ ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ ไม่มีการประพฤติชั่วร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ตนมีแนวคิดที่จะปฏิบัติให้รัดกุมมากขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น ต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ใช่คนที่มีสติฟั่นเฟือน นอกจากนั้น อาจต้องมีการรับรองพฤติกรรมโดยบุคคล เช่น นายจ้าง, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้บังคับบัญชา และต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะๆ เช่น 3-5 ปี เพราะคนที่ขออนุญาตซื้อและใช้อาวุธปืนไปแล้วนั้น นานวันอาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมไป เพราะอาจยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด อบายมุข ดื่มสุรา ขาดสติ ดังนั้นการขออนุญาตครั้งเดียวพิสูจน์ไม่ได้ จึงต้องมีการรับรองโดยบุคคล

พลเอก อนุพงษ์ฯ ได้กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสถิติการก่อเหตุอาชญากรรมจากอาวุธปืนปี 65 พบว่าเป็นปืนที่ไม่จดทะเบียนถึง 98.53% ดังนั้นต้องเร่งแก้ปัญหาปืนเถื่อน อาทิ ปืนไทยประดิษฐ์ ปืนดัดแปลง ที่ถูกนำไปก่ออาชญากรรมเป็นจำนวนมาก พุ่งเป้าการแก้ปัญหา ด้วยการนำปืนเถื่อนให้เข้าระบบ อาจจะออกกฎหมายให้นำมาคืน เหมือนที่เคยปฏิบัติ เช่น ให้นำมาคืนโดยไม่มีความผิด หากสามารถจดทะเบียนได้ จะอนุญาตให้ขึ้นทะเบียน ขณะเดียวกันต้องปรับปรุงบทลงโทษ ทั้งนี้ การตรวจสอบการขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งผิดกฎหมายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อยู่ระหว่างการดำเนินการ

พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าไม่มีบทลงโทษที่แรงพอ คนจะไม่ให้ความสำคัญ บทลงโทษจึงต้องแรงกว่านี้ ปัจจุบันมีโทษปรับ 2,000 – 20,000 บาท จำคุก 1-10 ปี ดังนั้น ต้องพิจารณาเพิ่มโทษให้แรงขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้ากระทำผิด เพราะเป็นคดีอาญาลงโทษรุนแรง ส่วนการอนุญาตให้พกปืน จะมีการขอที่ยากมาก และสำหรับในส่วนของคนที่พกปืนไปโดยไม่ขออนุญาต ต้องจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย