ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้าวันที่ 18 ตุลาคม 2565

รมว.มท. รุดเยี่ยม พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมอุบลฯ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ และ อ.สว่างวีระวงศ์ ย้ำเจ้าหน้าที่ดูแลการดำรงชีพ และความเป็นอยู่ให้ดีที่สุด

วันนี้ (18 ต.ค. 65) เวลา 10.30 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมรัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวราพงษ์ เกียรตินิยมรุ่ง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม กรมที่ดิน นายมงคล วัลยะเสวี รองผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (ปฏิบัติการ 3) นายพีระพล ปูรณะโชติ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 นางสาวปาณิสรา กาญจนะจิตรา ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ชุมชนบ้านกุดเป่ง อำเภอวารินชำราบ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวดอนปู่ตา เทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้กล่าวรายงานสถานการณ์ และมีคณะผู้บริหารจังหวัดอุบลราชธานีให้การต้อนรับ

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในทุกพื้นที่ ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระผม และคณะเดินทางมาเยี่ยมเยียนเเละให้กำลังใจผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนัก และหนักมากในบางพื้นที่ ประกอบกับมวลน้ำในลุ่มแม่น้ำมูลและลุ่มแม่น้ำชี จากทางตอนเหนือของจังหวัดอุบลราชธานี มีปริมาณมากไหลมารวมกัน ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตั้งเเต่วันที่ 10 ก.ย. 65 สถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบันมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 19 อำเภอ ในพื้นที่ 139 ตำบล (1,205 หมู่บ้าน) และมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 18,178 ครัวเรือน หรือประมาณ 78,553 คน ความเสียหายด้านการเกษตร มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหาย จำนวน 352,018 ไร่ พื้นที่ประมง จำนวน 872.55 ไร่ และการเลี้ยงปศุสัตว์ เบื้องต้นจากการสำรวจได้รับผลกระทบ 705,438 ตัว ซึ่งอพยพออกไปจากพื้นที่น้ำท่วมเเล้ว 51,162 ตัว ขณะนี้ จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วทั้งหมด 117 จุด มีผู้อพยพเเล้วจำนวน 34,137 คน ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานีได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวเน้นย้ำว่า ขอผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานทางด้านสาธารณสุขในพื้นที่ หน่วยทหารพัฒนา และภาคีเครือข่าย รวมถึงประชาชนจิตอาสา เร่งให้ความช่วยเหลือในด้านการดำรงชีพ ถุงยังชีพจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ให้มีทั้งอาหาร เเละน้ำดื่มที่เพียงพอ พร้อมเร่งสำรวจครัวเรือนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับการช่วยเหลือ อาทิ จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน การติดตั้งสุขาเคลื่อนที่ การจัดยานพาหนะ รถ เรือในการสัญจร การให้บริการสาธารณูปโภค หากประเมินเเล้วว่ามีความเสี่ยงที่กระเเสไฟฟ้ารั่วไหลให้ทำการตัดไฟฟ้า เพื่อป้องกันความเสียหายก่อนที่จะเกิดขึ้นทันที และการให้บริการน้ำดื่มแก่ผู้เดือดร้อน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงเเละผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ขอให้มีทีมสาธารณสุขดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ขอให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนในเรื่องของโรคภัยที่มากับน้ำ ทั้งมือเท้าเปื่อย โรคฉี่หนู ในเบื้องต้นหากหาน้ำสะอาดมาใช้ไม่ได้ให้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการทำน้ำสะอาด โดยนำสารส้มมาแกว่งในน้ำ เพื่อให้ได้มีน้ำที่สะอาดไว้ใช้ชั่วคราว

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากบ้านฮ่องอ้อ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีนายอำเภอสว่างวีระวงศ์ เป็นผู้กล่าวรายงาน นอกจากนี้ในช่วงบ่ายคณะเดินทางมีกำหนดการลงไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี