ข่าวประชาสัมพันธ์

จากสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย

ข่าวเช้า วันที่ 15 สิงหาคม 2565

มท.1 เปิดงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพ ปวงประชาอย่างยั่งยืน” 12 – 20 สิงหาคม 2565 รวม 9 วัน 9 คืน ณ ชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมเชิญชวนร่วมอุดหนุนสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชน

วันนี้ (15 ส.ค.65) เวลา 15.00 น. ที่เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพ ปวงประชาอย่างยั่งยืน” โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทูตานุทูต นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านผู้หญิงกอบกุล อุบลเดชประชารักษ์ ผู้ช่วยงานส่งเสริมศิลปาชีพ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พลตรี สมเกียรติ กิจเจริญ คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ผศ.ดร.ศศิธร จันทมฤก อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการ OTOP พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
โอกาสนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถวายความเคารพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และลงนามถวายพระพร และนำคณะผู้บริหารระดับสูง เยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการขยายผลและสนับสนุน โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP อย่างต่อเนื่อง ซึ่งศิลปาชีพของไทยถือเป็นภูมิปัญญาของประชาชน ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จฯ พระพันปีหลวง พระองค์ทรงหาแนวทางที่จะสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ทรงหาแนวทางว่าทำอย่างไรที่จะดึงเอาศักยภาพของชาวบ้าน ออกมา ทรงทอดพระเนตรวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่ได้ประดิษฐ์งานฝีมือในหลากหลายแขนง เช่น ช่างเงิน ช่างทอง ช่างถม หรือแม้แต่การถนอมอาหาร พระองค์ส่งเสริมศิลปะบางสาขา ที่หาผู้สืบทอดได้ยาก ทรงห่วงใยพี่น้องประชาชน อยากให้มีรายได้เพิ่ม และสืบสานต่อยอดมาเป็นหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) หาข่องทางการตลาด และนำศิลปาชีพมาขยายผล ทำให้มีช่องทางการตลาด นั่นก็คือที่มาของศิลปาชีพประทีปไทย คาดหวังว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยจะได้แสดงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP โดยคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตลอดจนสมาชิกกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเที่ยวงาน ร่วมเลือกซื้อ เลือกหา ชม ช้อป ชิม แชะ เพื่อสนับสนุน เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ อันทรงคุณค่าและสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP จากชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพ ปวงประชาอย่างยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 12 – 20 สิงหาคม 2565 ณ ชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อร่วมสนับสนุนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่า และสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP จากชุมชนต่าง ๆ ทำให้การงานครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนฐานรากซึ่งต้องการความร่วมแรง ร่วมใจ ของพวกเราคนไทยทุกคน” พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านศิลปาชีพ มากำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจฐานรากเพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน โดยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการผ่านโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่สามารถกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่ชนบทได้อย่างแท้จริง โดยการจัดงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพ ปวงประชาอย่างยั่งยืน” เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ระดับประเทศ ระหว่างวันที่ 12 – 20 สิงหาคม 2565 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดแสดงเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานศิลปาชีพ จัดแสดงจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เพิ่มช่องทางการตลาด และสร้างรายได้ให้ชุมชน อันเป็นการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และสร้างการเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในการจัดงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท กระตุ้นและเสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประกอบการ OTOP จากทั่วประเทศ

“การจัดงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการตลาดสินค้า OTOP และกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีที่สำคัญงานหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมที่มีความหลากหลายแปลกใหม่ ได้แก่ “โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” “โซนนิทรรศการกิจกรรมและการจำหน่ายสินค้าของหน่วยงานภาคี” ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด “โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP” กว่า 2,000 บูธ “โซนโอทอปชวนชิม” กว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ “โซน OTOP Trader ประเทศไทย และ OTOP Trader จังหวัด” จัดแสดงผลงานการจัดหาช่องทางการตลาดสินค้า OTOP ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยบริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ “โซนไฮไลท์” ภายในงานที่ไม่อยากให้ทุกท่านพลาด คือ โซน ศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP ที่อนุรักษ์และสืบทอดไว้ซึ่งภูมิปัญญาของคนไทยจากรุ่นสู่รุ่น ถ่ายทอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก ที่จัดแสดงผ้าที่มีอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดที่มีการออกแบบสวยงาม ทันสมัย เหมาะกับ ทุกเพศ ทุกวัยและสวมใส่ได้ทุกวัน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย กิจกรรมจากดาราศิลปินมากมาย ถือเป็นโอกาสสำคัญที่พวกเราจะช่วยสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนฐานราก ซึ่งต้องการความร่วมแรง ร่วมใจ ของพวกเราคนไทยทุกคน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม